วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2558

[วันที่ 3 ] แบกเป้เที่ยวอ่างขาง จ.เชียงใหม่ Final

















มาแย้วๆ กับวันสุดท้ายและท้ายสุด ที่จะเขียนเกี่ยวกับการไปเที่ยวเชียงใหม่ อ่างขาง



กว่าจะได้นอนประมาณเที่ยงคืน เบสกับไกรหนีไปนอนกันก่อน จริงๆมันมีบางเรื่องที่อยากเล่า แต่กลัวบุคคลนั้นเสียหาย เลย ไม่เล่าดีกว่า 5555 แต่จะเล่าอันนี้ให้ฟัง คืองี้


คืนวันนั้นเราเข้าไปนอนในเต้นท์กับเพื่อน คือมี 2 เต้นท์ อันแรกมีมิ้นกับพี่โน อีกอัน มีเรา เบส ไกร อัดกันสามคน ไม่แคบนะ พอดีตัว แล้วเต้นท์เราแม่งแบบ ตรงที่เรานอนกันมันเป็นเนินไง ตอนแรกก็หันปลายเท้าออกทางประตูเต้นท์แหละ แต่นอนไม่ได้ไง หันหัวผิด เพราะนอนลงไปแล้วเดี๋ยวเลือดคั่งในสมองตายห่าพอดี เลยเปลี่ยนหัวนอนเป็นเอาหัวไว้ที่ประตูเต้นท์ ยัง


ยัง



ยัง



ยังไม่พอ ..... เบสไกรที่เข้าไปนอนก่อน แล้วเราเข้าคนสุดท้าย ไม่มีใครสามารถรับรู้ได้ว่าจะเกิอดอะไรขึ้น




ประเด็นคือ ซิบเต้นท์ไง




ดอก ทอ.... มากกกกก แม่งง!!!! ซิปตรงกุปิดไม่ได้ไง แค่ตรงหัวที่กุนอนด้วย ขนาดทหารมาช่วยปิดยังปิดไม่ได้อะ เลยต้องจำใจนอน ปล่อยให้หัวเย็น เป็นไงละมึง อยากสัมผัสความเย็น เย็นสมใจอยาก

ทหารก็ยังอุส่าห์หยิบเสื้อมาปิดตรงที่มันเป็นรูๆให้ เห้อออ ขอบคุณค่า



แต่แม่งก็มีค่าเท่าเดิม แถมยังดึงผ้าคลุมเต้นท์ ที่กันน้ำค้างปิดฝั่งเราให้ด้วย น้ำค้างจะได้ไม่ตกตรงที่เรานอน แต่พอสักพัก ไอ่เราก็ได้ยินเสียงเบสมันหัวเราะ




ก็หันไปมอง

(-_- * )  มันขำไรวะ



>[]<   5555555



มันก็ยังหัวเราะอยู่และไม่มีท่าทีว่าจะหยุด



"แกขำไรวะ"



" 555555"


นี่ไงคำตอบ



สักพัก นางชี้มือไปที่ด้านบนของเต้นท์




เลย อ่ออออ ทันที ก็ผ้าคลุมเต้นท์ด้านบน มันหายมาทางเราเกือบหมด ไม่มีปิดน้ำค้างให้ไกรเลย


ใช่แล้ว ทหารนั่นแหละเป็นคนดึงไป สักพักพวกเราก็





"555555555"


มองหน้ากัน



" 555555555 "


ชี้มือไปที่ผ้ามันเอียงมาฝั่งเรา


"555555555555"



 นอนอยู่เฉยๆ



" 55555555 "



ขำกันแบบนั้นอยู่พักใหญ่ สักพัก กำลังจะหยุดขำกันแล้วหละ อยู่ๆ อิเต้นท์ข้างๆ นอนกรนจย้าาาา




กรนแบบ ไม่ได้เบาอะแกรรร นี่ถ้าอัดเสียงมานะจะเอาให้ฟัง เสียงดาย อ้อถามดังไปนอน นินทาดังไปหน่อยว่าใครกรน เหมือนรู้ตัว สักพักก็หยุดกรนไป






แต่ยังงงง



พอตกดึก ตีไรไม่รุ




" คร๊อกกกกกกกกกก กก กกก ZZ Zzzzz zZ zz "




อันนี้มายาวเลย เลยนอนไม่ค่อยหลับ แถมอินังไกรมันกัดฟันตอนกลางคืนอีก เออ สนุกกันไป ตีกันให้นัว
อ้อกับเบสสลับกันสะดุ้งตื่น น่าจะตีห้าได้ อิพวกเต้นท์เกย์ข้างๆ (หล่อมากกกกกกก)


มันคงตื่นมาดูหมอก พากุนอนไม่หลับเลย จุ๊กจิ๊กๆ อะไรกันไม่รู้  แถมยังแอบขโมยเตาพวกเราไปผิงไฟกันอีก ร้ายกาจจจจจจ (งอลที่เขาไม่ชวนไง5555 )




ถามว่าทรมาณไหม สุดๆอะ แต่มันได้บรรยากาศดี ทรมานตรงที่ไม่ค่อยได้นอน เหนื่อยด้วยเพราะเดินทางกันทั้งวัน เที่ยวกันทั้งวัน นอนก็ดึก แถมมาเจออิเต้นท์นอนกรนอีก อ้อ ยังไม่รวมไปถึง นักร้องประจำทริปครั้งนี้ เต้นท์ข้างๆนั่นและ คงจะเมากัน อยากส่งไป The voice เลยค้ะ มีตีขวดด้วยจย้าาา เสียงหลงด้วย เพี้ยนก็มี ลุกขึ้นเต้นก็มา เห็นแล้วก็เอ้อออ สนุกดี


ตอนเช้าเลยเป็นเราคนแรกที่นอนต่อไม่ได้แล้ว เลยลุกขึ้นมาถ่ายรูปตอนเช้า





























เป็นแบบนี้!! พระอาทิตย์กำลังขึ้น เบสก็ตื่นแล้ว แต่เเค่ยังไม่ลุก คือมันหนาวจนไม่อยากออกมาดู จริงๆเราก็เป็นน่ะ แต่นึกถึงว่าอยากถ่ายรูปวิว เลยจำใจยอมมาถ่าย





" อ้อ มีหมอกไหม "


เสียงเจ๊โนถาม

" ก็มีนะเจ๊ นิดหน่อย ไม่มาก แต่สวยอยู่ "




ก็เลยถ่ายแล้วให้เจ๊ดูในเต้นท์


สักพักทุกคนเริ่มทยอยกันออกมาดูหมอกกัน เบสก็ถ่ายรูป น้องมิ้นก็หาพร็อบต่างๆ แล้วเดินตามมาถ่ายรูปกัน































แบบนี้






























อากาศดีมาก แต่ก็หนาวมากอีกเช่นกัน ชนิดที่ว่ายืนตัวสั่น  ถ่ายรูปไปวิ่งไปผิงไฟที หนาวจริงๆ ลมแรงด้วยตอนเช้า




 สักพัก พระอาทิตย์ก็เริ่มขึ้น




























สวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ตาลุกแแวววาว




























พอสายๆก็ประมาณนี้






























ระหว่างยืนถ่ายรูปกันพักใหญ่ ก็เริ่มทยอยกันไปไปฟันล้างหน้า แต่งหน้าทาครีมกัน เจ๊โนก็ไปเปลี่ยนชุด นักศึกษาให้เราถ่ายรูปรับปริญญาให้




























แบบนี้


































































ไม่สวยมากหรอกเพราะว่าเราไม่ใช่มืออาชีพ เราแค่ชอบการถ่ายรูปมากกว่า




พอสักพักใหญ่ๆ เราก็เก็บของแล้วออกเดินทางกันไปที่เกษตรอ่างขางด้านบน ประมาณ 5 กิโล แต่คิดว่า


คงไม่ถึง แต่ทหารบอก 5 กิโล มันแปปเดียวเองนะ











































ค่าเข้าคนละ 50 บาท



สิ่งแรกที่เจอและประทับใจในการมาครั้งนี้คือ





คือ





คือ




คือ


.
..
.

.

(มุขนี้ยังไม่เลิกเล่นนะไอ่ซัซ)



























ท้าดา า าาาา >< หน้าเหมือนชิวาว่าเลยอ่ะ



อยากให้ทุกคนซูมเข้าไป ใกล้ๆ




































แบบนี้










































แบบนี้









































แบบนี้






และ





























ดูหน้าด้วย "มองแรง"



พอๆๆ เปลืองพื้นที่



เสร็จแล้วก็หาที่ถ่ายรูปพี่โน และก็ สามตัวนั้นก็ไปถ่ายรูปกันเอง



























ช่าย เรามาเพื่อซากุระเลย หละ ยอมเสีย 50 บาท เพื่อมัน





































































สวยมากกกก ออกดอกเยอะมากๆ โชคดีที่มาตอนมันกำลังบานพอดี ส่วนพญาเสือโคร่งเรามาไม่ทัน ร่วงไปซะแล้วววว




















































































































































































ก็ถ่ายให้เจ๊ไปเรื่อยๆ กว่าจะได้ถ่ายแบบนี้รอคิวนานมาก เพราะคนมาถ่ายกันเยอะมาก ยากมากที่จะถ่ายไม่ให้ติดรั้ว ติดคน แดดร้อนด้วย แต่ก็อยากให้ภาพสวยๆกับเจ๊ เพราะเจ๊เป็นคนพามาเที่ยวและลุยเพื่อน้องๆได้ทุกอย่างด้วย




























สักพักใหญ่ๆ เราก็เดินไปถ่ายมุมอื่นกันบ้าง








































ดูเจ้าเบสน้อยนั่นสิ






































กว่าจะได้ท่านี้ เจ๊แกก็กลัวล้ม พวกเราก็สั่งเอาๆ วันนี้เป็นวันแกล้งเจ๊  55555




































































































ขอนำเหนอออออออออ นี่เค้าเรียกว่ากุหลาบพันปี  ดอกใหญ่มาก สวยมากด้วย ><







































ช็อตนี้เป็นช็อตแกล้งเจ๊ สั่งให้เจ๊วิ่ง ออกกำลังกายแก้หนาว 5555555555 วิ่งอยู่หลายรอบ เล่นเอาลมแทบจับ แดดก็ร้อน ข้าวก็ยังไม่ได้กินกัน






































อันนี้ลองกล้อง อยากให้น้องมิ้นวิ่ง



ว่าแต่ ทำไมมิ้นมาวิ่งแล้วน่ารักกว่าเจ๊ มิ้นน่ารักทุกรูปอะ เป็นคนที่ถ่ายกี่รูปๆก็น่ารัก
















































































หน้านาง อะเลิทสุดๆ



























หลังจากหอบไปพักใหญ่ๆ ก็พากันเดินต่อ




























เค้าเข้าใจทำน่ะ แบบ สวยมาก ใหญ่มาก สะพรึงตะลึงตึงๆกันเลยทีเดียวเชียว





































































































สั่งให้วิ่งก็วิ่ง น่ารักจังเจ๊ของเรา 5555555555


































































ช่วงนี้จะลงรูปรัวๆ

























































































ส่วนนี้จะเป็นพวกกระบองเพชรแล้วน้าา า























































































































































ชอบเจ้าอันนี้มาก ตั้ลล้ากกกก กระจุ๋มกระจิ๋ม



































































































































































กลับมาถ่ายตรงซากุระนิดนึง ปล่อยให้เจ๊โนไปที่รถพักผ่อน คือเริ่มหิวกันแล้ว หิวแบบหิวมาก







































































































ถ่ายกันเสร็จแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางต่อ ไปบ้าน นอแล  ไรชา 2000



ตามาเล้ยยยย





.
.
.
.
.
.
.





























































































































































พอหาสถานที่ได้แล้วก็รีบมาถ่ายพี่โน เพราะจะรีบไปกินข้าวกัน คือหิวมาก ตอนแรกกะว่าจะมาหาอะไรกินแถวไร่ชา แต่ว่าไม่มีร้านอาหารเลยมีแต่ร้านกาแฟ กับ มาม่า เพราะยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่ เลยยังไม่ค่อยมีอะไรมากมาย 





ก็ประมาณนี้ค่าบ บ บบ 



เจ๊เริ่มไม่ไหว เริ่มจะเป็นลมตาลาย เพราะหิวข้าว รีบบึ่งรถออกไปหาร้านอาหารกันทันที 



เราเลยไปหาอะไรกินกันที่ตรงทางลงอ่างขาง เป็นพวกร้านอาหารตามสั่ง ก๋วนเตี๋ยวยูนาน ผัดไทย โจ๊ก ข้าวต้ม 


ก่อนเข้าไปกิน เจ๊ถามว่า 


"เอาไหม ร้านนี้ไหม ใครกินบ้าง"


ทุกคนเงียบ กำลังคิด แต่ก็หิว




สักพัก



เลี้ยวรถ ฟึ่บบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ



"แดกร้านนี้แหละ กุหิว!!! "




55555555 


สรุปก็มากินนี่กัน ปัญหาระดับโลกคือ เวลากินข้าว กับเพื่อนก็เป็นนะ แบบเวลาเพื่อนถามกินอะไร ทุกคนจะตอบว่า อะไรก็ได้ แต่พอไปจริงๆก็ไม่แดกกัน 5555










เพิ่งได้ความรู้ใหม่ว่า   เวลาเทน้ำชา ถ้าแก้วที่มันร้าวเค้าไม่ให้ใช้ คนจีนเค้าถือนะจ้ะ



แล้วก็น้ำที่ร้านนี้ เหมือนจะไม่มีน้ำเปล่า เป็นน้ำชาแทน แต่หอมนะ อร่อยมาก (หรือกุหิว)







เราเลือกที่จะสั่งผัดไทยยูนาน มากินเพราะคิดว่าจะได้เยอะ เพราะ เบส กับพี่โน สั่งก๋วยเตี๋ยวยูนาน (หมูตุ๋น)






สรุปว่าได้มานิดเดียว 55555555555 


อันนี้ 45 บาท จ้ะ ถ้าก๋วยเตี๋ยวได้เยอะอยู่นะ เครื่องเยอะมาก 50 บาท 



แถวนี้นอกจากคนบนดอยแล้ว ก็จะมีคนจีนยูนานเยอะมากนะจ้ะ ไม่ต้องตกใจถ้าเขาพูดจีนใส่กัน แต่ไม่ใช่จีนกลางน่ะ ไม่ต้องไป หนีห่าวกับเขาล่ะ 555555




กินอิ่มก็เดินทางกลับ อ.ไชยปราการ เพราะเที่ยงแล้ว เจ๊โนพาเราไปอ่าาา เหมือนนิกายของญี่ปุ่น ศาสนา "เซไคคิวเซเคียว" หรือ ลัทธิ "โยเร"   ลักษณะคล้ายๆโบส แต่ไม่เหมือนกันน่ะ  ลืมถ่ายรูปมา ตอนนั้นง่วงมาก อยากนอนอย่างเดียว 
เจ๊พาไปเรียนรู้ว่า การไหว้ ไหว้ยังไง แล้วใครเป็นผู้เผยแพร่ เจ๊ก็ให้หนังสือเรามาเล่มนึง เอามาอ่าน ใครอยากรู้ว่าคืออะไรลองศึกษาดูนะค่ะ 


คนที่นี่ใจดีมาก ห้องน้ำสะอาดมาก  อ่างปลาเป็นยาวๆ ปลาตัวใหญ่ด้วย อากาศดี สงบมาก พอไปในห้องครัว แม่พี่โนก็พาเรากินส้มตำก่อนเลย 5555 ผลไม้ ขนมหวาน อร่อยมาก 



เสร็จแล้ว แม่พี่โน แนะนำให้เรามาวัดๆนึง ชื่อวัดตับเต่า 


มันมีสองทางให้ขึ้น แต่ เดี๋ยวก่อนนนน สองทางที่ว่าคือ ทางแรกไปถ้ำสว่าง กับ ถ้ำที่เรากำลังขึ้นไปคือ ถ้ำมืด เราจึงเสียค่าไฟฉาย 100 บาทนะจ้ะ 


หน้าถ้ำเป็นแบบเนนนนน้ 



ไกรไม่มองกล้องอีกล่ะ 


เข้ามาได้รับความรู้สึกของความน่ากลัว มันเย็น เงียบมาก และดูจัดไปสิ -_- กับถ้ำมืดๆ 




ประเด็นคืออินี่กลัวผี 



แต่เสือกเป็นคนชอบลุยๆ  ตั้งแต่เดินเข้าไป ไม่เคยเดินเป็นคนสุดท้าย ไม่เดินนำหน้าก็คนที่ 2 หรือไม่ก็คนที่ 3 ไม่มีรั้งท้าย กลัว 555



พอเดินเข้ามาก็จะเจอแบบนี้ 




จิ๊บๆน้อง อันนี้อ่ะ ยังไม่หวีดหยอง นี่คือสถานที่ ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก และยังไม่เคยเห็นใครรีวิว 



ข้างในเย็น (และมืดมาก)  


แต่ไม่แสดงให้เพื่อนรู้ว่ากุกลัวผี   แอ๊บเนียนชิพหายยยยยย 555


และนี่!!! ท่านผู้นำปากห้อยของเรา >.< ย้อเย่นนนนน 




ข้างในเหมือนหินย้อยมาก เดี๋ยวจะลงรูปรัวๆให้ได้ดูกันถึงความกว้างและน่ากลัว


เราเดินกันไปได้สักพักนึง เจอกลุ่มคนที่เข้าไปก่อน ก็ถามเค้าว่าอีกไกลไหม เค้าบอกว่าไม่ไกล ประมาณ 100 เมตรได้ แต่เค้าบอกว่าจะมีทางนึงที่แคบแล้วก็บรรไดจะชัน 





คือไม่ได้กลัวทางนะตอนนี้ กลัวรองเท้านี่แหละ สภาพรองเท้าไม่เหมาะแก่การลุยมาก 




ขึ้นมาคนแรกจย้าาาาา รีบมาแช๊ะภาพ 


ส่วนนังไกรน้อยก็ยิ้มแจ๋นแร๋นอยู่ข้างล่าง 




อันนั้นอะจิ้บๆ ดูนี่สะก่อน 


แม่เจ้าาาาาาาาาาาาาาาา!!! กลัวว่าขึ้นได้แต่จะลงไม่ได้นี่แหละ 


แต่ก็พยายามขึ้นมา จนมาถึงจุดนี้ได้ ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะถึงสักที 









เดินกันไปเรื่อยๆ 



จนรู้สักพักไปเจอทางที่แคบมาก เจ๊โนเลยถอดใจไม่ไปด้วย เพราะชุดที่ไม่เอื้ออำนวยสุดๆ เลยไปกันแค่ 4 คน 



ใครชอบลุยแนะนำว่าให้มาที่นี่เลยจ้ะ 




แต่มีข้อแม้ว่า คนตัวใหญ่ๆ เข้าไม่ได้ 55555555 


ก็มึงดูทางสิไอ่สัส ช่องเท่ามด ขนาดกุเข้าไป กระเป้าติดบ้าง หัวชนบ้าง ดังโป๊กกกก ตูดอีก 
ส่วนนมไม่ต้องห่วง ไม่ใหญ่พอให้มันอึดอัดหรอก (แซะตัวเองทำไมวะ 555)



ยัง ยัง ยังไม่หมด  ไกรน้อยส่องทางอยู่ข้างหน้า วันนี้นางทำหน้าที่ผู้ชายก็ตรงนี้แหละ แมนมาก ซูฮกเลยครับ!!


ดูความกว้าง และความใหญ่ของถ้ำซะก่อน นี่ยังถ่ายเก็บไม่หมดนะ 




ใกล้แล้วๆ ได้ยินเสียงคน แล้วก็มีหนุ่มน้อยเดินผ่านไป บอกว่าข้างหน้าก็สุดทางแล้ว 


หินย้อยป่ะ? ไม่แน่ใจ แต่สวยมาก 




ด้านในเป็นเจดีย์ ที่สร้างเมื่อปี 1463  


ตอนนั้นกุเป็นอะไรอยู่  นานมากกกกกกกก 

อันนี้คือแผนจารึกผู้พิชิตรึไง -_- เกาหลีมีคล้องกุญแจ เมืองไทยต้องนี่เลยจย้าาา 

 เราได้แค่อ่าน แต่ไม่กล้าเขียนลงไป 




หลังจากที่เดินกันมานาน เหนื่อยมาก ถ้ำเย็นก็จริง แต่ทางนี่สุดยอดมาก นี่ต้องระวังกล้องตลอดเวลา กลัวกล้อกระแทกกับพวกหินต่างๆ ทั้งปีนทั้งกระโดด

ออกมาแล้วก็มานั่งพักเหนื่อย แล้วก็รอเวลาไปขึ้นรถตอน 5 โมงเย็น 

นี่จย้าาาาาา  อาฆาตสุดๆ 



ด้านหน้าวัดเป็นกลุ่มต้นไม้ใหญ่ๆ เต็มไปหมด อากาศกำลังดี หายร้อนเลย





แล้วก็แวะมาดูลิงกันด้วย 

อ่าว!! ไม่ใช่ ไอ่พวกนี้มันไช่ลิงสักหน่อย 


นี่ต่างหากละ  มีทั้งหมด 3 ตัว อ้วนๆทั้งนั้น 




อันนี้แถม อยากให้ทุกคนโฟกัสไปที่ไกรน้อย 






ไกรคุง ดูจะสนุกกับการนั่งดูลิง 


บางทีฉันกคิดว่า มันไม่เหมาะแก่การเป็นแฟน มันคือเพื่อนสาว 55555 อิบ้าาาาา แกต้องโอ๋น้องเบสสิ ไม่ใช่เบสโอ๋แก เจ้าไกรคุง 


เราสามารถให้อาหารลิงได้นะ แต่ว่าห้ามเอามือเข้าไปนะ เค้าบอกว่าลิงดุมาก ห้ามเอามือเข้าไปในกรงเด็กขาด แค่เราทำท่ายื่น ลิงก็ยื่นมือมาขออาหารเราแล้วจ้า 




ต่อมาสถานีสุดท้ายของทริปนี้ เพราะเริ่มหิวนิดๆ เลยไปหาอะไรรองท้อง นิดนึง ก่อนขึ้นรถกลับ เจ๊เลยพาไปเราไปร้านเค๊กร้านนึง ชื่อร้าน ป๊อป-เป้ ร้านอยู่ก่อนถึงที่เราจะไปขึ้นรถนิดเดียว เส้นถนนใหญ่เลย 





อันนี้คือ โปเตโต้ชีส กับซอสมายองเนส 

ความฟินระดับ 10 เพราะชีสยืดมากกกก 


อันนี้เปาะเปี๊ยสด 

อร่อยๆ น้ำจิ้ม หวานๆเปรี้ยวๆ 


ไก่ครีมมะนาว 


สปาเกตตี้ทะเล 


บรรยากาศภายในร้าน



น้ำแก้วประมาณ 45-50 60 อาหารขั้้นต่ำ 70 90 135 ประมาณนี้ มีหลายอย่างมาก ทั้งกินเล่นและกินจริงๆ 55555



ตอนแรกจะจ่ายเอง พอดีคุณป้ามา อาหารมื้อนี้คุณป้าเลี้ยง เลยประหยัดตังค์ไปอีก 






กินอิ่มแล้วก็เตรียมตัวเดินทางกลับ 





การเที่ยวครั้งนี้ตองขอบคุณที่โนที่พาพวกเราเที่ยว และการพูดคุยสนุกสนาน ข้อคิดการเรียนในมหาลัยต่างๆให้พวกเรา ขอบคุณคุณป้าที่เลี้ยงอาหารพวกเรา และความอบอุ่นของครอบครัวมิ้น ขอบใจมิ้นที่ติดต่อพี่โนให้และพาเราไปแว๊นกัน ขอบคุณทุกๆคนที่มากับทริปครั้งนี้ การเดินทางแบบ ควาย ควาย แสน(อ)ยากเย็น แบบที่มิ้นกล่าวไว้ 5555


สนุกมาก ถึงจะเที่ยวไม่ครบก็ตาม แต่ก็คุ้ม ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านกันนะค่าบบบบบบ



จบทริป 


The end. 


.
.
.
.
.